หน้ากากป้องกันมลพิษทางอากาศ
หน้ากากอนามัย ถือว่าเป็นไอเทมที่มีประโยชน์อย่างมากที่จะช่วยป้องกันเราจากฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคต่างๆได้ ในวันนี้แอดมินจะมาแนะนำหน้ากากชนิดต่างๆ ที่ทุกท่านน่าจะเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว แต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันอย่างไร ไปลุยกันเลยครับ
1. หน้ากากอนามัยชนิด N95
หน้ากากอนามัย N95 เป็นหน้ากากอนามัยชนิดที่ช่วยป้องกันอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากๆได้(หากใส่ถูกวิธี) โดยประสิทธิภาพในการป้องกันจะสูงกว่าหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป เพราะลักษณะของหน้ากากอนามัย N95 นี้มีลักษณะครอบลงไปที่บริเวณหน้าปาก และจมูกอย่างมิดชิด จึงทําให้เชื้อไวรัสหรือสารปนเปื้อนไม่สามารถลอดผ่านได้ และ แน่นอนสามารถป้องกันอนุภาคขนาดเล็กอย่าง PM2. ที่เมืองไทยเผชิญอยู่ในขณะได้ในระดับดีมากอีกด้วย
Note : หากใส่เป็นเวลานานจะทำให้หายใจลำบาก อาจจะไม่เหมาะในการใส่ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งของที่มีคุณภาพ อาจมีราคาสูงอีกด้วย
2. หน้ากากอนามัยทางการแพทย์
แม้จะมีขายตามท้องตลาดทั่วไป หน้าตาคล้ายๆกัน แต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่เท่ากัน ถ้าสามารถเลือกซื้อที่มีคุณภาพได้ ก็จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ดียิ่งขึ้น หน้ากากทางการแพทย์ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี และสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ สําหรับวิธีการใส่ควรใส่โดยการนําด้านสีเขียวออกด้านหน้า เพื่อกันสาร คัดหลั่งจากคนอื่นเข้ามาสู่ตัวเรา นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันฝุ่นได้ในระดับปานกลางถึงดี แต่หากใส่ 2 ชั้นซ้อนกันก็จะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย
Note : ควรใส่ให้ถูกต้องโดยให้ฝั่งด้านบนที่มีลวดแข็งอยู่ที่สันจมูก และด้านล่างให้ดึงลงมาครอบปลายคางตลอดเวลา แนะนำเลือกใช้ที่มีคุณภาพ และใช้แล้วทิ้งไม่ควรนำกลับมาใช้ใหม่
3. หน้ากากอนามัยแบบผ้า
มีประสิทธิภาพการป้องกันคล้ายๆ กับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สามารถนำมาซักและใช้ซ้ำได้ แต่ควรเลือกใช้ชนิดที่มีการผลิตจากใยสังเคราห์ที่มีการซ้อนทับกันหลายชั้น จะทำให้สามารถกรองเชื้อโรค และฝุ่นได้ดีขึ้น
Note: ควรเลือกหน้ากากที่ทำจากผ้าอย่างน้อย 3 ชั้นขึ้นไป และขนาดต้องเหมาะกับใบหน้า ประสิทธิภาพอาจจะลดลงเมื่อมีการซักแล้วนำมาใช้ใหม่บ่อยๆ ควรอ่านคำแนะนำและเปลี่ยนอันใหม่เมื่อชำรุดหรือรูปทรงเปลี่ยนไป
4. หน้ากากอนามัยแบบมีวาล์ว
ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับหน้ากากอนามัย N95 สามารถช่วยป้องกันทั้งฝุ่น สารเคมี เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้อย่างดี สามารถอนุภาคขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ดีมาก แต่อาจจะไม่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันที่มีผู้คนอยู่ร่วมกัน พูดง่ายๆหากเราไม่สบาย ไอ จาม หน้ากากจะป้องกันตัวเรา แต่ไม่ป้องกันคนอื่น
Note เนื่องจากหน้ากากชนิดมีวาล์วจะกันเชื้อโรคหรือฝุ่นละอองที่จะเข้ามาหาเราได้ แต่ไม่สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ กล่าวคือเมื่อเราไอ จาม หรือหายใจ ละอองน้ำลายของเราก็จะออกมาตามวาล์วที่อยู่ด้านหน้าไปโดนผู้อื่นได้
ผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ระยะสั้นอาจจะมีอาการ ไอ จาม แสบจมูก(บางรายอาจมีเลือดกำเดาเลยทีเดียว) ระคายเคืองผิวหนัง ระคายเคืองตา แต่ระยะยาวก็อาจจะอันตรายถึง ระบบทางเดินหายใจ เช่นหอบหืด, มะเร็งปอด เป็นต้น ดังนั้นผู้ที่มีโรคประจำตัวระบบทางเดินหายใจ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก อาจมีอาการมากกว่าปกติ เราจึงต้องดูแลสุขภาพของตนเองและคนใกล้ชิดอยู่เสมอ หากมีอาการหากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
ที่มา : 1. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, ประสิทธิภาพหน้ากาอนามัยเพื่อการป้องกันสุขภาพ 6 ประเภท
2. www.unicef.org : โควิด-19 กับหน้ากาก, คำแนะนำสำหรับครอบครัว
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน www.tropmedhospital.com